การทำ เคลือบเซรามิก เป็นหนึ่งในวิธีการปกป้องดูแลรถยนต์ให้มีสภาพสีสวยงามที่ดีมากที่สุดวิธีหนึ่งที่มีในปัจจุบันนี้ เนื่องจากเป็นการสร้างชั้นฟิล์มแข็งเคลือบชั้นสีแท้ของรถเอาไว้เบื้องล่าง ทำให้สีแท้ได้รับการปกป้อง ไม่ต้องสัมผัสโดยตรงกับสภาพแวดล้อม มลพิษ และสิ่งต่างๆ จากการใช้งานทั่วไป ดังนั้นการทำ เคลือบเซรามิกรถ จึงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอยากใช้บริการเพื่อรักษาสภาพรถให้ดูดีอยู่ได้นาน แต่อย่างไรก็ตาม มีหลายๆ ท่านที่มีความสงสัยในเรื่องของการ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก ว่ามันจะต้องอย่างไร จึงจะมีความเหมาะสมกับการเคลือบผิวรถแบบพิเศษชนิดนี้ จำเป็นต้องมี วิธีที่จะต้องปฏิบัติเป็นพิเศษในการ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก หรือไม่…

คำถามเกี่ยวกับการ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก เป็นเรื่องที่พบได้บ่อยๆ

แม้ว่าผู้ที่รักรถจำนวนมากจะคุ้นชินกับคำว่า เคลือบเซรามิก มาสักพักหนึ่งแล้ว และมันไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สำหรับเรื่องวิธีการในการ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก ก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นอยู่เสมอ เช่น

“รถที่ทำเคลือบเซรามิกมาต้องล้างอย่างไร ?”

“ล้างรถเคลือบเซรามิกด้วยแชมพูได้ไหม หรือต้องใช้แค่น้ำเปล่าในการล้าง ?”

“หลังเคลือบเซรามิกมาแล้วต้องดูแลยังไงบ้าง ?”

“รถเคลือบเซรามิกลงแวกซ์ได้ไหม ?”

“ล้างรถเคลือบเซรามิกต้องใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ?”

และ… อื่นๆ อีกมากมาย ฯลฯ. ซึ่งบางคำถามก็น่าสนใจ บางคำถามก็อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่เรื่องเหล่านี้สะท้อนให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงการให้ความสนใจในเรื่องวิธีในการที่จะ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก ให้ดีที่สุดเหมาะสมที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าจะเกิดจากการที่รถที่ผ่านการลง น้ำยาเคลือบเซรามิก มาแล้วนั้น มันมีความสวยงาม ใสเป็นมันวาว เหมือนกับรถใหม่ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกพอใจและอยากถนอมให้มีสภาพแบบนี้ไปนานๆ ซึ่งนี่ก็เป็นเรื่องปกติของคนเราที่จะให้ความใส่ใจไม่อยากให้รถสวยๆ ของตัวเองหมองไปเร็วนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการมองข้ามประสิทธิภาพหลักที่สำคัญที่สุดของการทำ เคลือบเซรามิก ไป นั่นก็คือ ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวสีรถ

วิธีดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก

ล้างด้วยน้ำสะอาดธรรมดา รถที่ผ่านการเคลือบปกป้องมาแล้ว จะมีความลื่นและมีปฏิกิริยาป้องกันไฟฟ้าสถิต ซึ่งทำให้ฝุ่นผงสิ่งสกปรกไม่สามารถเกาะติดได้ ดังนั้น เพียงเราใช้น้ำธรรมดาล้างและใช้ผ้าลูบเบาๆ ฝุ่นผงหรือสิ่งสกปรกต่างๆ ก็จะหลุดออกไปจนหมดได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาน้อย และยังไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบเช็ดก่อนรถแห้งเอง เพื่อป้องกันการเกิดรอยคราบน้ำด้วย เพราะมันไม่สามารถเกาะติดผิวสีรถได้อีก
ในกรณีมีฝุ่นเกาะเพียงเล็กน้อยสามารถใช้ผ้าสะอาด หรือไม้ขนไก่ปัดได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหารอยขนแมว เนื่องจากมีชั้นฟิล์มแข็งปกป้องอยู่ ฝุ่นผงถึงจะมีความแข็ง แต่ก็ไม่สามารถทำให้ชั้นฟิล์มใสนี้เป็นรอยได้
ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทขัดสีรถ เพราะจะทำให้ชั้นฟิล์มบางลง อีกทั้งไม่มีความจำเป็นเลยที่ต้องทำแบบนั้น เพราะรถหลังเคลือบเซรามิก ไม่มีรอยคราบอะไรมาเกาะติดฝังแน่นได้อีก แค่เช็ดเบาๆ ก็หลุดออกแล้ว
กรณีอยากเคลือบ WAX เรื่องนี้รถที่ผ่านการ เคลือบเซรามิก สามารถลงเพิ่มได้ เป็นการเสริมความเงางาม และช่วยเพิ่มการปกป้องได้ในรถที่ต้องจอดกลางแจ้ง เจอแดดแรงๆ เป็นประจำ แต่หากต้องการให้ดีที่สุด แนะนำเป็น สเปรย์ Detailer แบบพ่นแล้วเช็ดจะดีกว่า ทั้งใช้งานได้ง่าย และไม่ทิ้งชั้นของสารเคลือบ เหมือน WAX ทั่วไป

อย่าใช้อุปกรณ์เครื่องขัดกับสีรถ เนื่องจากมันจะทำให้ชั้นฟิล์มที่เราเคลือบไว้เสียหาย

สรุปก็คือ เราเพียงดูแลทำความสะอาดแบบง่ายๆ ด้วยน้ำเปล่า หรือการล้างรถธรรมดาก็ใช้ได้แล้ว เพราะ รถทำเคลือบเซรามิก มีชั้นฟิล์มปกป้องอยู่ ทำให้เราไม่ต้องกังวลและเสียเวลากับเรื่องจุกจิกเล็กๆ น้อยเหล่านี้อีก

แต่ที่สำคัญอีกอย่างและไม่ควรละเลยก็คือ การไปรับบริการเสริมตามเวลาที่ผู้ให้บริการของคุณนัด ซึ่งนอกจากเป็นการไปเพื่อลงน้ำยาเพิ่มเติมซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปจากการใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปเป็นบริการหลังการขายที่มีอยู่แล้ว ก็ยังเป็นการนำไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการเขาได้ทำการตรวจสอบสภาพผิวสีรถจากการใช้งานของคุณด้วย เพื่อจะได้ดูแลเพิ่มให้ได้อย่างเหมาะสม

การ ดูแลรถหลังเคลือบเซรามิก หลักๆ ก็มีเพียงแค่นี้ ซึ่งก็จะทำให้รถของคุณสะอาดสวยงาม มีสภาพเหมือนใหม่ได้อย่างยาวนาน และจุดเด่นอีกอย่างของการทำ เคลือบเซรามิก ก็คือไม่เป็นภาระให้เราต้องยุ่งยากในเรื่องการดูแลมากนัก นี่คือ ความคุ้มค่าของการทำ เคลือบเซรามิก ที่ทำครั้งเดียว ดูแลรถเราได้นานเป็นปีๆ โดยไม่จำเป็นต้องกังวลและไม่สร้างภาระให้เราต้องยุ่งยากในการจัดการกับสภาพของผิวสีรถนั่นเอง

แนะนำเทคนิกการเลือกโปรแกรมเคลือบแก้ว เคลือบเซรามิกของกลุ่ม Armor Group