เคลือบแก้วคืออะไร
- ต.ค. 4, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
“เคลือบแก้ว คืออะไร” และ “มันมีผลดีหรือไม่อย่างไรกับรถของเรา” น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำถามที่มีผู้ให้ความสนใจ อยากทราบถึงที่มาที่ไป และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริการเคลือบสีรถประเภทนี้…
เคลือบแก้ว หรือ Glass Coating คือ
ผลิตภัณฑ์ประเภท “สารเคลือบปกป้องพื้นผิว” แต่โดยทั่วไปเราจะรู้จักและได้ยินชื่อของการทำ เคลือบแก้ว กันในฐานะ น้ำยาที่ใช้ในการเคลือบผิวสีรถ นิยมใช้งานในการเพิ่มความสวยงามและทนทานให้กับสีของรถ โดยเฉพาะรถยนต์ แต่จริงๆ แล้วจุดมุ่งหมายในการผลิตคิดค้นสารชนิดนี้ขึ้นมาก็เพื่อใช้งานในการ เคลือบปกป้องพื้นผิว ให้มีความสวยงามและทนทานมากกว่าเดิม โดยสามารถใช้ได้กับหลายสิ่งหลายอย่าง จะเป็นพื้นผิวที่เป็นโลหะ ไม้ หิน หรือที่ทำจากวัสดุชนิดอื่นก็สามารถใช้ได้ ซึ่งโดยทั่วไปมันจะถูกผลิตโดยสารที่เป็นส่วนประกอบหลัก 2 อย่าง คือ 1.สารจำพวกทรายหรือ ซิลิกา และ 2. สารจำพวกโลหะ เช่น ไทเทเนียม ซึ่งปฏิกิริยา หรือ ผลลัพธ์ที่ น้ำยาเคลือบแก้ว ทำให้เกิดขึ้นกับพื้นผิวที่เคลือบมันลงไปก็คือ เมื่อน้ำยาแห้งสนิทจะกลายเป็นชั้นฟิล์ม ที่มีความใสและมีความแข็ง เคลือบปกป้องพื้นผิววัสดุเอาไว้ ซึ่งคุณสมบัติในเรื่องความแข็งที่ใกล้เคียงกับวัสดุที่เป็นแก้วหรือกระจกและความใสสะท้อนแสงได้ของชั้นฟิล์มนี่เอง ที่ทำให้พื้นผิวที่ถูกเคลือบเอาไว้นั้นดูคล้ายมีชั้นของ “แก้ว” เคลือบปกคลุมพื้นผิวเอาไว้อีกชั้น มันมีทั้งความเงา ฉ่ำ สวยงาม และมีความลื่น ความแข็งที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนที่เนื้อของผิววัสดุ รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ไม่ให้สามารถมาทำให้เกิดรอบหรือเกาะติดได้ง่ายๆ และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือชั้นฟิล์มที่เกิดขึ้นนี้ มันมีความทนทานในการยึดเกาะ มันจะเคลือบอยู่บนพื้นผิวที่เคลือบเอาไว้ได้นาน ซึ่งจุดนี้เองทำให้มันมีความน่าสนใจในการเอามาใช้กับรถมากกว่าการเคลือบผิวสีทั่วๆ ไป อย่างการเคลือบแวกซ์ ที่แม้จะมีความลื่นและความมันเงา แต่ก็ไม่ได้มีความแข็ง และไม่ได้เกาะติดทนยาวนาน
ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นเรื่องแปลกแต่อย่างใดที่ ส่วนใหญ่เราจะรู้จักการ เคลือบแก้ว ในการใช้เพื่อเคลือบปกป้องสีของรถยนต์ มากกว่าการใช้งานด้านอื่นๆ ทั้งนี้ก็เพราะ ความประสิทธิภาพในเรื่องความสวยงามและความทนทานที่เกิดขึ้นเมื่อผ่านการเคลือบด้วยสารชนิดนี้ มันมีความเหมาะสมและตรงกับความต้องการในการใช้งานกับสีของรถ ที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ก็ต้องการให้สีของรถมีความเงางาม และมีความทนทาน ไม่เกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ซึ่งความต้องการนี้ไปตรงคุณสมบัติของ น้ำยาเคลือบแก้ว ที่สามารถให้เกิดความเงางาม ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนได้ดี (Wax ทำในข้อนี้ไม่ได้ เนื่องจากคุณสมบัติด้านความแข็งไม่เทียบเท่า) ทำความสะอาดได้ง่าย สิ่งสกปรกเกาะติดได้ยาก รวมถึงมีอายุในการใช้งานยาวนาน ไม่ต้องคอยดูแลขัดเคลือบกันบ่อยๆ และยังปกป้องสีรถไม่ให้เกิดการซีดจางเร็ว ทำให้สบายใจได้ในการใช้งานไม่ต้องคอยระวังมากนัก ไม่ว่าจะเป็นการจอดตากแดด ตากฝน หรือปัญหามลพิษและแสงแดด ที่มีผลต่อสภาพของสีและการเกิดรอยด่าง
นี่คำตอบของคำถามที่ว่า เคลือบแก้วคืออะไร และข้อดีของมัน แต่อย่างไรก็ดีอาจจะมีความกังวลกันในเรื่องราคา ซึ่งก็มักจะเป็นเรื่องความกังวลกันว่า การรับบริการ เคลือบแก้ว มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการเคลือบปกป้องแบบอื่นๆ แต่เมื่อนำมาเทียบกันในเรื่องประสิทธิภาพ และระยะเวลาในการปกป้อง ความสะดวกในการทำความสะอาด และความสวยงามของรถแล้ว มันก็เป็นความคุ้มค่าในระยะยาว (หากเทียบกันในเรื่องระยะเวลาในการปกป้องและการประหยัดแรงในการทำความสะอาดแล้วอาจะถือว่าคุ้มค่ากว่าด้วยซ้ำ) และยังสามารถสร้างความภูมิใจให้เจ้าของรถได้มากขึ้นอีกด้วย