คุณสมบัติของน้ำยาเคลือบแก้ว
- ต.ค. 8, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
สำหรับท่านที่สนใจการทำ เคลือบแก้ว นอกจากเรื่องของราคาที่ต้องเช็คกันให้ดีว่าที่ไหนทำแล้วมีความคุ้มค่า ราคาเหมาะสมกับบริการที่ได้รับแล้ว อีกเรื่องที่ไม่ควรละเลยก็คือ เรื่องของการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ เคลือบแก้ว ให้แจ่มชัด เพราะบางท่านสนใจแต่เฉพาะเรื่องความเงางามเป็นหลัก และบางครั้งยังไขว้เขว เอาการทำ เคลือบแก้วรถยนต์ ไปเทียบกับการเคลือบแวกซ์ แข่งกันในเรื่องความเงา ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะการ เคลือบแก้ว มีเรื่องของประสิทธิภาพในการใช้งานมากกว่าแค่เรื่องของความสวย และเพื่อให้เข้าใจเด่นชัด เราควรจะมาเริ่มต้นที่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ น้ำยาเคลือบแก้ว หรือ สารเคลือบที่เอามาใช้กันเสียก่อน เพื่อจะได้เห็นภาพและเข้าใจได้อย่างชัดเจน ว่าเมื่อเอารถไปทำแล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับรถของเราบ้าง
น้ำยาเคลือบแก้ว คือ ผลิตภัณฑ์ประเภทสารเคลือบ ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการปกป้องพื้นผิวของวัสดุประเภทต่างๆ ให้มีความคงทน ทำความสะอาดง่าย และมีความเงางามน่ามอง ซึ่งในความเป็นจริงสารเคลือบชนิดนี้สามารถใช้งานได้หลายหลายไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การ เคลือบสี ของรถหรือยวดยานพาหนะ เพียงแต่ว่าเมื่อนำมาใช้งานกับรถแล้วมันเพิ่มความเงาที่มองดูแล้วสวยงาม เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันรอยขีดข่วน และทำให้สามารถทำความสะอาดได้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถ จึงเกิดความนิยมใช้งานในด้านนี้ และส่วนใหญ่เราจะรู้จักการ เคลือบแก้ว ก็ในฐานะ น้ำยาเคลือบสีรถ นี่เอง
คุณสมบัติของ น้ำยาเคลือบแก้ว
สำหรับคุณสมบัติของ น้ำยาเคลือบแก้ว ที่เราเอามาลงเคลือบที่ผิวรถที่พูดถึงกันทั่วไปในงานด้านการดูแลรักษารถ จะมีอยู่ 3 เรื่อง หลักๆ คือ
- คุณสมบัติด้านความแข็ง ซึ่งเป็นการวัดจากความแข็งของสารเคลือบเมื่อตกผลึกแข็งตัวแล้ว ส่วนใหญ่จะพูดแทนกันด้วยตัวเลขตามด้วยตัวอักษร H เช่น มีความแข็ง 6H , มีความแข็ง 7H ซึ่ง H นี้ย่อมาจาก Hardness สำหรับค่าความแข็งสูงสุดในปัจจุบันคือความแข็งระดับ 9H
- คุณสมบัติด้านความหนา ซึ่งเป็นการวัดจากความหนาของชั้นฟิล์มบนพื้นผิวเมื่อทำการเคลือบลงไปแล้ว มีหน่วยการวัดเป็น ไมครอน (1 ไมครอน = 1/1,000,000 เมตร) ความหนามีผลต่อการปกป้องสีจริงของรถเอาไว้ด้านล่าง
- คุณสมบัติด้สนความลื่น ซึ่งเป็นการวัดกันที่องศาการไล่น้ำ สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า จากการสังเกตความกลมของเม็ดน้ำที่เกาะบนผิวรถ ส่วนใหญ่ที่มีวางจำหน่ายในท้องตลาดจะมีค่าองศาไล่น้ำอยู่ระหว่าง 90 – 140 องศา
นี่เป็นคุณสมบัติของ น้ำยาเคลือบแก้ว ที่ผู้สนใจทำ เคลือบแก้ว ควรทำความเข้าใจก่อนเลือกใช้ เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้อย่างชัดเจนมากขึ้น และสำรวจความต้องการที่แท้จริงของตนเองได้ว่าเราต้องการได้รับประสิทธิภาพของ น้ำยาเคลือบแก้ว เหล่านี้อย่างครบถ้วยหรือว่าเราต้องการเพียงเรื่องของความเงามันและความสวยงาม เพื่อที่จะได้ดำเนินการได้ถูกจุด และได้ผลลัพธ์ออกมาตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด
ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วของ Armor เพิ่มเติม