ทำไมเคลือบแก้วแล้วน้ำไม่เกาะรถ
- ต.ค. 15, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
ภาพที่เห็นกันบ่อยๆ ในโฆษณาเกี่ยวกับการทำ เคลือบแก้ว ที่คุ้นชินตากันดีมากที่สุดภาพหนึ่งก็น่าจะเป็น ภาพแสดงประสิทธิภาพการป้องกันไม่ให้น้ำมาเกาะที่ผิวรถ ซึ่งอาจจะเป็นภาพนิ่ง หรือ ภาพเคลื่อนไหวก็แล้วแต่สื่อที่เราได้พบเห็น ซึ่งหากได้ชมภาพเคลื่อนไหวจะเห็นได้ว่า น้ำเมื่อไปโดนเข้าที่ผิวของ รถเคลือบแก้ว จะไม่สามารถเกาะติดผิวได้เลย ซึ่งก็มีอยู่ 2 ลักษณะ นั่นก็คือ กลิ้งออกไปเป็นเม็ดกลมๆ หรือไม่ก็ อาบไล้แนบติดไปกับผิวรถแล้วเคลื่อนหายไปโดยแทบไม่ทิ้งรอยหยดน้ำเอาไว้บนผิวของรถเลย นับเป็นเรื่องที่สร้างความสนใจให้กับผู้ได้ชมเป็นอย่างมาก แต่ทราบหรือไม่ว่าเหตุใด เมื่อ เคลือบแก้ว แล้วน้ำจึงไม่สามารถเกาะติดผิวรถได้….
เชื่อว่าหลายๆ ท่านที่มีความสนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประเภท เคลือบแก้ว คงเคยได้มีโอกาสได้เห็นภาพ หรือคลิปวีดีโอที่แสดงประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำไม่ให้เกาะติดผิวของรถหลังจากทำการ เคลือบแก้วรถ ในลักษณะนี้มากันบ้างแล้ว ซึ่งเราจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ารถผ่านที่การทำ เคลือบแก้ว ปกป้องมา เมื่อมีการฉีดน้ำหรือราดน้ำลงไปบนรถ น้ำจะไหลออกไปจนหมด แทบไม่เหลือเม็ดหยดน้ำเกาะติดค้างอยู่เลย
“ทำไมน้ำไม่เกาะที่ผิวของรถที่ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มา…”
เหตุผลที่น้ำไม่เกาะรถเคลือบแก้ว
เกิดจากปฏิกิริยาที่เกิดจากตัว น้ำยาเคลือบแก้ว ซึ่งหากพิจารณาดีๆ เชื่อว่าลักษณะเม็ดน้ำและการไหลออกไปจากผิวของ รถเคลือบแก้ว จะทำให้เรานึกถึงภาพหยดน้ำที่กลิ้งบนใบบอน ซึ่งลักษณะแบบนี้ทางวิทยาศาสตร์เรียกมันว่า hydrophobic interaction คำว่า hydrophobic หมายถึง “ไม่ชอบน้ำ” หรือมีปฏิกิริยาต่อต้านน้ำ ซึ่งมันเกิดจาก สารที่เรานำมาทำเป็น น้ำยาเคลือบแก้ว มีลักษณะเป็นโมเลกุลที่ไม่มีขั้ว และไม่มีการแตกตัวของไอออน ทำให้ไม่เกิดแรงเหนี่ยวนำระหว่างสาร (ในที่นี้ก็คือพื้นผิวของรถที่ถูกปกคลุมเอาไว้ด้วยชั้นฟิล์มใสที่เกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ) กับ โมเลกุลของน้ำ ด้วยปฏิกิริยานี้ทำให้น้ำที่ลงไปโดนพื้นผิวของรถที่ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาไม่สามารถเกาะติดมันได้
ชมประสิทธิภาพได้จากคลิปด้านล่าง
https://www.youtube.com/watch?v=kA9SEmURZiU&t=2s
https://www.youtube.com/watch?v=Gmx4CMkWDQQ
“การที่น้ำไม่เกาะเมื่อ เคลือบแก้ว แล้ว ช่วยเหลือรถของเราได้ในแง่ไหน…”
ข้อดีของปฏิกิริยาเคลือบแก้ว ที่น้ำไม่เกาะ
แม้จะได้เห็นภาพการเด้งหรือไหลออกไปของน้ำจากผิวของรถที่ เคลือบแก้ว อย่างชัดเจน จากภาพ ภาพเคลื่อนไหวที่บันทึกไว้ หรือแม้แต่ไปเห็นประสิทธิภาพจากการทดสอบด้วยสายตาของตัวเอง ก็อาจจะยังมีบางท่านมีความสงสัยอยู่บ้าง ว่า แล้วการที่น้ำมันไม่สามารถเกาะติดผิวของ รถเคลือบแก้ว นั้นมันช่วยอย่างไรกับการดูแลสภาพของสีรถ
- ไม่มีรอยคราบสนิมน้ำบนผิวรถ สนิมน้ำ หรือรอยคราบที่เหลือจากน้ำเมื่อมันแห้งแล้ว เป็นรอยคราบที่กำจัดยากมากอย่างหนึ่ง เกิดจากหินปูน ฝุ่นละออง หรือมลพิษ ที่ไหลมารวมจับกลุ่มกันเมื่อโดนน้ำ เกิดขึ้นง่าย ป้องกันยาก และ กำจัดไม่ง่ายเลย แต่เมื่อมีการ เคลือบแก้ว ปกป้องไว้ น้ำก็จะไม่ค่อยเกาะคราบนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาอีก
- แสดงถึงประสิทธิภาพความลื่น การที่ให้ดูการไหลออกของน้ำโดยไม่เกาะติดเป็นการแสดงเพื่อให้เห็นว่าแม้แต่ของที่เกาะผิวได้ง่ายอย่างน้ำยังไหลลื่นออกไป ดังนั้นคราบสกปรกอื่นก็ยากจะยึดเกาะที่ผิวได้เช่นกัน ทำให้เรามั่นใจได้มากยิ่งขึ้น
- แสดงถึงการมีชั้นฟิล์มอยู่บนผิว ตราบเท่าที่ยังมี น้ำยาเคลือบแก้ว บนผิว เราก็จะเห็นได้ว่ามันยากที่น้ำจะเกาะได้ แต่ถ้าเมื่อใด เห็นว่าน้ำเริ่มเกาะ ก็แปลว่า ชั้น เคลือบแก้ว ของเราเริ่มหายไป ควรไปรับการบำรุงรักษาเพิ่มเติมได้แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปผู้ให้บริการจะกำหนดระยะเวลาเอาไว้ให้ เป็นหนึ่งในโปรโมชั่นหลังการขาย
ถ้าให้พูดง่ายๆ ก็คือ สิ่งใดที่มีสารที่มีคุณสมบัตินี้เคลือบอยู่มันจะไม่เปียกน้ำ เนื่องจากผิวมีปฏิกิริยาต่อต้านการยึดเกาะพื้นผิว ซึ่งจากคลิปด้านบนคงเห็นแล้วว่าต่อให้เป็นสิ่งที่ปกติซึมซับน้ำได้ง่าย หากลง น้ำยาเคลือบแก้ว เอาไว้ มันก็จะไม่เปียกน้ำ เมื่อรถของเราได้รับการเคลือบปกป้องด้วยสารที่มีคุณสมบัตินี้ ก็ทำให้รถไม่ต้องกังวลเรื่องการเกิดรอยคราบจากหยดน้ำ ที่โดยทั่วไปหากเราปล่อยเอาไว้จนหยดน้ำแห้งเองมันมักทิ้งรอยคราบขาวๆ ที่เกิดจากหินปูน ฝุ่นละออง หรือมลพิษ ที่ไหลมารวมจับกลุ่มกันเมื่อโดนน้ำ ไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกได้ รถจึงไม่เกิดรอยคราบ และสามารถทำความสะอาดได้ง่าย เพราะไม่เกิดรอยคราบฝัง
นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไม เคลือบแก้ว แล้วน้ำไม่เกาะผิวรถ ดังนั้นก่อนจะเข้าฤดูฝน หากไม่อยากให้รถเกิดรอยคราบ และเลอะด้วยไปด้วยน้ำหรือโคน ก็ทำการ เคลือบแก้ว เอาไว้ ป้องกันสีรถเราได้อย่างสบายใจในการใช้งานในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น
ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วของ Armor เพิ่มเติม