รอยเปื้อนรถสีขาว กับการทำเคลือบแก้ว
- ต.ค. 20, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
รถสีขาว เป็นรถที่ได้รับความนิยมเลือกใช้งานมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง จากสถิติที่สำรวจโดยสื่อในประเทศเกาหลีใต้ได้รายงานว่า ทั่วโลกมีคนเลือกใช้รถสีขาวสูงถึง 37% เป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ สีดำ ที่ถูกเลือกใช้เป็นลำดับที่ 2 มีตัวเลขอยู่ที่ 18% ซึ่งความนิยมนี้สอดคล้องกันกับการสำรวจความนิยมรถเฉพาะในเอเชีย ที่รถสีขาวก็เป็นอันดับ 1 เช่นกัน แต่มีตัวเลขสูงกว่า นั่นคือ ครองใจคนให้เลือกใช้รถสีขาวได้ถึง 48 % นับว่าเป็นตัวเลขที่สูงมาก แต่การจะใช้รถสีขาวนั้นก็มีเรื่องต้องระวังหลายอย่างเช่นกัน เนื่องจากมันเป็นสีที่ถ้าเกิดรอยที่มีสีเข้มจะเห็นได้ชัด ซึ่งหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจในการปกป้องความงามของรถสีขาวก็คือการทำ เคลือบแก้ว
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า การทำ เคลือบแก้ว เป็นวิธีดูแลรถที่มีประสิทธิภาพ แต่ก็มีราคาค่อนข้างสูงกว่าวิธีการดูแลอื่น ดังนั้นอาจจะทำให้บางท่านมีความลังเลว่าควรจะ เคลือบแก้ว รถสีขาว หรือ เลือกใช้วิธีอื่นที่ถูกกว่า ดังนั้นเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ เราลองมาดูกันในเรื่องของ รอยเปื้อนที่น่ากังวลและเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ในรถสีขาว พร้อมกับ วิธีขจัดรอยคราบนั้นๆ แล้วนำมาเทียบกับการลง น้ำยาเคลือบแก้ว ดูว่ามันมีความคุ้มค่าน่าสนใจเพียงพอหรือไม่ที่เราจะเลือกใช้เป็นวิธีปกป้องรถสีขาวของเรา…
รถสีขาว เป็น สีรถยอดนิยมในเมืองไทยของเรา อาจจะเป็นด้วยความเปล่งปลั่งสดใสดูสะอาด และยังมองเห็นรอยเปื้อนและรอยขีดข่วนได้ยากกว่ารถสีอื่นๆ ที่ทำให้มันค่อนข้างดูแลง่าย จึงทำให้มันเป็นสีรถที่นิยมกันมากเป็นพิเศษ แต่อย่างไรก็ดี มันสามารถเกิดปัญหารอยคราบเปื้อนประเภทที่มีสีเข้ม ที่เห็นได้ชัดเช่นกัน ! ไม่ว่าจะเป็นคราบสีเหลือง รอยยางมะตอยสีดำ หรือ… รอยฝังแน่นจากคราบสนิมแดงต่างๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้ว มันจะเห็นเด่นชัดมากในรถสีขาว นั่นเป็นปัญหาของผู้ใช้รถสีนี้ทุกคนที่หาวิธีป้องกัน ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งย่อมเป็นการทำ เคลือบแก้ว ซึ่งสามารถป้องกันสีรถได้จากรอยคราบเปื้อนต่างๆ สารพัด แต่อย่างไรก็ดี ในกรณีที่เรายังไม่ได้ทำการ เคลือบสีรถ แบบนี้ เราก็ต้องหาวิธีอื่นในการจัดการรอยคราบเปื้อนบนรถสีขาว
รอยเปื้อนที่เป็นปัญหาบนรถสีขาว และวิธีแก้ไข ในกรณีที่ไม่ได้ เคลือบแก้วรถสีขาว
- รอยยางมะตอย เป็นรอยรอยคราบดีดำๆ เหนียวๆ เป็นหนึ่งในรอยคราบที่ขจัดได้ค่อนข้างยาก เราไม่สามารถใช้แชมพูล้างรถปกติล้างมันออก และไม่ควรเอาของแข็งหรือสิ่งมีคมไปขูดมันออก (แม้ว่าคุณจะมั่นใจว่าทำอย่างเบามือแค่ไหน) การลบรอยนี้ต้องใช้น้ำยาเฉพาะในการทำละลาย แต่ต้องระวังด้วยเพราะมันสารประเภท Solvent ที่สามารถทำลายชั้นเคลือบหรือชั้นสีของรถได้ด้วยเช่นกัน
- รอยสนิมสีแดง เป็นปัญหาใหญ่ของรถสีขาว เพราะเห็นชัดมากกว่าในรถสีอื่น สาเหตุของมันเกิดจากการที่เราจอดรถใต้หลังคา หรือใกล้กับสิ่งก่อสร้างที่เป็นโลหะเหล็ก หากฝนตกหรือมีความชื้นที่ทำให้น้ำสนิมเหล็กหยดลงมา มันจะเกาะแน่นฝังอยู่กับผิวสีขาวอย่างทานทน ดูแล้วน่าเกลียด วิธีขจัดต้องใช้ ครีมประเภทขัดสีรถมาขัดออก ซึ่งแน่นอนว่าในการจัดการรอยนี้ ชั้นสีของรถก็จะถูกทำลายไปด้วย อาจพึ่งคาร์แคร์ดีๆ สักแห่งช่วยในการจัดการรอยนี้ เพราะการขัดเสี่ยงต่อปัญหาในการเกิดรอยเสียหาย
- คราบเหลือง คราบนี้มักเกิดในรถที่ใช้งานมานาน และจอดตากแดดตากลมเอาไว้ มันคือคราบไคลจากฝุ่นผง มลพิษ ที่เกาะติดผิวสี ยิ่งจับนานรถยิ่งมีสีเหลือง ดูน่าเกลียดและฝังแน่น วิธีแก้ไขอาจนำไปให้คาร์แคร์ทำความสะอาดด้วยการลูบดินน้ำมันทำความสะอาดรถ สามารถช่วยลอกคราบไคลนี้ออกได้ แต่หากทิ้งไว้นาน อาจจะต้องพึ่งการสาดสีใหม่ ให้รถคืนความขาวกันเลยทีเดียว
นี่เป็นตัวอย่าง 3 รอยคราบหนักๆ ที่เป็นปัญหาน่าหนักใจในการใช้งานรถสีขาว และวิธีที่สามารถแก้ไขลบรอยเหล่านั้นออกไปได้ แต่อย่างที่ได้บอกไปในแต่ละข้อ เราจะเห็นได้ว่า หากเป็นรอยมากและทิ้งไว้นาน การขจัดจะยาก และถึงขจัดออกไปได้ก็ส่งผลทำลายสภาพของชั้นสีแท้ของรถเราไปด้วย
การเคลือบแก้วรถสีขาวน่าสนใจอย่างไร
ในกรณีที่เราเลือกการทำ เคลือบแก้ว เพื่อปกป้องรถสีขาว คราบสกปรกดังกล่าวมาในตัวอย่างจะไม่เป็นปัญหาน่าหนักใจ เนื่องจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ที่เราลงเอาไว้ที่ผิวสีรถนั้นจะสร้างชั้นฟิล์ม ที่มีความลื่น คราบสกปรกไม่สามารถเกาะจับ และแน่นอนว่ามันไม่ได้ลงไปโดนถึงชั้นสี การทำความสะอาดจะง่ายกว่ามาก การเช็ดและล้างทั่วไปก็สามารถขจัดรอยเหล่านี้ออกไปได้หมด โดยไม่ต้องออกแรงขัดจนทำลายสีแท้ของรถเราไป แทบไม่จำเป็นต้องพึ่งสารทำละลายหรือสารกัดสีเพื่อขจัดคราบแต่อย่างใด
ดังนั้น การทำ เคลือบแก้ว จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากสำหรับคนใช้รถสีขาว เพราะมันช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับรถได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเพิ่มความเงางาม เปล่งปลั่งดูสว่างสดใสได้มากกว่าเดิม และเกิดรอยขีดข่วนได้ยาก อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่ายอีกด้วย