วิธีจัดการขี้นกตกใส่รถ กับการเคลือบแก้ว
- ต.ค. 31, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
ปัญหาเรื่อง ขี้นกตกใส่รถ เป็นอีกเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย และหาทางป้องกันยากเอามากๆ เนื่องจากในการใช้งานรถนั้นเราต้องใช้งานกลางแจ้ง และบางทีเราก็ต้องการร่มเงาเพื่อช่วยกำบังแสง แต่ร่มไม้หรือแม้แต่ชายคาของอาคารก็เป็นที่พักของนกด้วยเช่นกัน ดังนั้นปัญหา ขี้นกติดรถ จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยาก วิธีการป้องกันที่ดีมากวิธีหนึ่งก็คือการทำ เคลือบแก้ว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้ น้ำยาเคลือบแก้ว เข้ามาช่วยในการป้องกันปัญหานี้ เราลองมาดูกันก่อนว่ามันมีความเหมาะสมและคุ้มค่ามากแค่ไหน และขี้นกนั้นเป็นปัญหาใหญ่และน่ากลัวจริงๆ หรือไม่
ขี้นกตกใส่รถ เป็นเรื่องน่ากลัวแค่ไหน
มีหลายท่านที่มองว่า ปัญหา ขี้นกตกใส่รถ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรนัก มันอาจจะดูแล้วน่าเกลียดน่าขยะแขยงจากของเสียที่นกถ่ายลงมา และมันมีเชื้อโรคสารพัด (โดยเฉพาะช่วยไข้หวัดนกระบาด) แต่เชื่อว่าแค่ใช้น้ำธรรมดาล้างหรือแค่เช็ดๆ ถูๆ มันก็หลุดออกไปแล้ว ซึ่งนั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากขี้นกมันมีความน่ากลัวในการทำลายสีรถของเราได้มากกว่านั้นเยอะ
เนื่องจากในขี้นกนั้นมีความเป็นกรดสูงมาก โดยเฉพาะส่วนที่เป็นสีขาว ซึ่งส่วนนี้คือ กรดยูริก ซึ่งเกิดจากสารที่มีไนโตรเจนเป็นองค์ประกอบ เป็นกรดธรรมชาติที่มีความเข้มข้น และยิ่งมันแห้ง น้ำระเหยออกไปมันก็ยิ่งมีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ส่วนที่เป็นสีดำเป็นส่วนของกากของเสีย แม้จะน่ากลัวแต่สีขาวน่ากลัวที่สุดกับสีรถ เนื่องจากกรดที่อยู่ในขี้นกนั้น มันสามารถกัดกร่อนทำลายชั้นเคลือบแลคเกอร์ลงไปได้สบายๆ และแน่นอนมันทำลายชั้นสีแท้ได้อย่างไม่สามารถฟื้นฟูสภาพ หากทิ้งขี้นกตกใส่รถ เอาไว้ที่ผิวสีรถเพียงไม่นาน (ในกรณีรถยังไม่ได้ เคลือบแก้ว) มันเกิดรอยด่างที่ขัดไม่ออก และยิ่งทิ้งไว้นานก็ยิ่งกัดกินลึกลงไปจนทำลายชั้นสีแท้ แม้จะหาสารขัดเคลือบมาลบรอยเองก็ไม่สามารถที่จะลบรอยด่างนี้ออกได้หมด เพราะชั้นเคลือบและสีแท้เสียหายไปแล้ว… นี่คือความน่ากลัวเมื่อ ขี้นกตกใส่รถ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แน่นอน
การจัดการ ขี้นกตกใส่รถ ในกรณีเป็นรถไม่ได้ เคลือบแก้ว
- กรณี ขี้นกตกใส่รถ ใหม่ๆ ให้รีบจัดการทำความสะอาดทันที ให้ใช้ผ้านิ่มๆ หรือทิชชู หยิบออกให้หมด แล้วรีบใช้น้ำสะอาด ล้างออกทันที ล้างหลายๆ เที่ยว ให้มั่นใจว่ามันออกจนหมด เพราะหาเหลือค้างบนผิวรถมันก็ทำลายสีรถต่อไปได้อยู่ดี และสังเกตได้ยาก
- กรณีเป็น ขี้นกติดรถ จนแห้งกรังคาผิวสี หากเป็นเช่นนี้ก็คงต้องลุ้นว่ามันทำลายสีรถเราได้มากแค่ไหน ในกรณีที่เราไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว ป้องกันสีรถเอาไว้ เพราะการทิ้งเอาไว้มันทำลายชั้นแลคเกอร์ได้แน่นอน และถ้าฝ่าชั้นเคลือบเดิมนี้ได้ ก็ถึงชั้นสีแท้ มันฝากรอยที่เห็นได้ชัดเอาไว้ให้เราแน่ วิธีการจัดการในขั้นนี้ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดรถพวกที่เป็นแวกซ์น้ำหรือครีมล้างรถมาทาตรงที่ขี้นกแห้งติดใช้ชุ่ม ทิ้งไว้สักครู่ ใช้กระดาษทิชชู หรือผ้านิ่มๆ มาหยิบออก อย่าขัดถู เพราะมันจะเป็นการไปซ้ำเติมความเสียหายที่ผิวสีรถให้หนักหนามากยิ่งขึ้น
การจัดการขี้นกที่ผิวรถในกรณีผ่านการ เคลือบแก้ว มาแล้ว
หากว่ารถของเราผ่านการลง น้ำยาเคลือบแก้ว มาแล้ว ก็พอจะวางใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ว่าปล่อยวางชะล่าใจได้เลย เพราะแม้จะมีชั้นฟิล์มใสของ เคลือบแก้ว ปกคลุมสีแท้ของรถเอาไว้ แต่ถ้าไม่ใช่ทำออกมาใหม่ๆ หรือพึ่งไปรับการเสริม น้ำยาเคลือบแก้ว ที่ผิวมาจนมั่นใจว่าชั้น เคลือบแก้ว ที่ผิวยังสมบูรณ์ ก็อาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน แต่แน่นอนว่าเกิดปัญหาน้อยกว่ารถที่ไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว มาแน่ๆ เนื่องจากผิวรถของเรามีสารเคลือบผิวที่มีความแข็ง ความลื่น และความหนาที่ช่วยชะลอการกัดกร่อนของขี้นกเอาไว้ และ ความลื่นก็ยังช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นอีกด้วย เพียงใช้น้ำสะอาดล้างและลูบด้วยผ้านุ่มเบาๆ ขี้นกก็จะหลุดออก เพราะแม้แต่น้ำยังไม่สามารถจับผิวได้ ขี้นกที่ติดอยู่ก็จึงขจัดออกไปได้ง่าย ไม่ต้องระวังมากจนทำความสะอาดอย่างยากลำบาก
ดังนั้น เราจึงเชื่อมั่นได้ว่า ในกรณีเป็นรถที่ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาแล้ว เราจะสามารถใช้งานได้สบายใจขึ้นได้ แต่เมื่อใดก็ตาม หากว่าพบ ขี้นกตกใส่รถ ก็ให้รีบจัดการทำความสะอาดทันที จะได้ไม่ต้องเสี่ยงกับการกัดกร่อนทำลายของขี้นกจนทำให้ผิวรถของเราเสียหาย…