• ผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากประเทศเยอรมนี

  • สนใจผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วและธุรกิจคาร์แคร์ ติดต่อ

Armor Diamond

ปัญหาสีรถเสียจากสารในรถเองกับการเคลือบแก้วYou are here: Home » Blog » ข้อมูลความรู้ บทความ » ปัญหาสีรถเสียจากสารในรถเองกับการเคลือบแก้ว

ปกติเวลาพูดกันเรื่องสิ่งที่จะทำให้สีรถเสีย เรามักนึกถึงเรื่องของสิ่งที่เกิดจากภายนอกมากระทำกับสีรถ ไม่ว่าจะเป็น แสงแดด มลภาวะ ฝุ่นผง มูลนก ฝนกรด ยางมะตอย ยางไม้ ฯลฯ. แต่นอกเหนือจากสิ่งที่มาจากภายนอกเหล่านี้ ปัญหาสีรถเสีย ยังสามารถเกิดได้จาก สิ่งที่มาจากภายใน หรือ สิ่งที่ใช้กับตัวรถเองด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้หลายท่านอาจจะไม่ทันระวังเพราะยังไม่ทราบ แต่ก็มีคำแนะนำว่าหากไม่อยากกังวลมากเกินไปการทำ เคลือบแก้ว ปกป้องสีรถเอาไว้ช่วยได้ดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะทำ เคลือบแก้ว หรือไม่ จะลง น้ำยาเคลือบแก้ว แบบไหน เราลองมาดูกันก่อนว่าสิ่งที่อยู่ในรถที่ทำให้สีรถเสียได้นั้นมันมีอะไรกันบ้าง เพื่อจะได้ระวังและหามาตรการป้องกันที่เหมาะสม

 

อะไรบ้างที่อยู่ในรถและทำให้สีรถเกิดปัญหาได้

 

สิ่งที่สามารถสร้างรอยด่างและความเสียหายให้กับสีรถของเราได้และเป็นสิ่งที่อยู่ภายใน หรือใช้งานในรถ มีอยู่หลายอย่าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้หากไม่ทราบ บางท่านก็อาจจะชะล่าใจ ทำให้เกิดความเสียหายตามมา (โดนเฉพาะรถที่ไม่ได้มีการ เคลือบแก้ว เคลือบผิวรถเอาไว้) อาทิเช่น

 

  1. น้ำมันเครื่อง โดยทั่วไปเราจะระวังกันในเรื่องน้ำมันเบรก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่ามันมีประสิทธิภาพในการกัดกร่อน แต่มักจะไม่ได้ระวังน้ำมันเครื่อง ซึ่งในน้ำมันเครื่องมีการผสมสารเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดเขม่าในเครื่องยนต์ และมันเป็นสารปิโตรเลียม ทั้งสองประการนี้ทำให้มันมีคุณสมบัติในการทำละลาย หรือเรียกว่ากัดผิวสีรถได้
  2. น้ำมันเบรก เป็นสิ่งที่กัดสีรถได้แน่นอน เรื่องนี้ทราบกันดี เหตุผลก็เนื่องจากมันเป็นสารที่ต้องเพิ่มคุณสมบัติในเรื่องการป้องกันความร้อน ในเวลาที่เราเบรกรถนั้นเกิดความร้อนสูงมาก หากน้ำมันเบรกไม่เพิ่มคุณสมบัติด้านนี้ย่อมใช้ในระบบเบรกอย่างปลอดภัยไม่ได้แน่นอน แต่ผลพวงก็คือ ทำให้มีคุณสมบัติในการกัดกร่อนและทำละลายสูง เป็นสิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เผลอโดนเข้าสีแท้เสียหายได้แน่นอน เว้นแต่มีการ เคลือบแก้ว ไว้ จะช่วยชะลอความเสียหายเอาไว้ได้ระยะหนึ่ง
  3. น้ำมันเชื้อเพลิง รถส่วนมากในปัจจุบันยังต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนเป็นพลังงานให้กับระบบจุดระเบิด แต่ทราบหรือไม่ว่า มันก็เป็นตัวที่ทำให้เกิดรอยเสียหายให้กับสีรถได้มากด้วยเช่นกัน เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงนั้น เป็นสารประเภท Solvent หรือ เป็นสารที่มีคุณสมบัติเป็นตัวทำละลาย เมื่อมันโดนที่ผิวสีรถ มันสามารถละลายแลคเกอร์ที่ผิวรถและกัดลึกลงไปถึงสีแท้ได้ (ชั้นเคลือบผิวที่เกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว จะช่วยได้มากกว่าอีกระดับหนึ่ง) ต้องระวังให้ดีเวลาไปเติมน้ำมัน หากพบต้องรีบทำความสะอาด
  4. เขม่าควัน เป็นอีกอย่างที่ทำร้ายสีรถของเราได้ ส่วนมากเรามักไม่ได้ระวังเรื่องนี้ เพราะพบเห็นอยู่เป็นประจำ แต่ในความเป็นจริง เขม่าควันทำร้ายสีรถได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากมันจะมีความเหนียว เกาะติดผิวทำให้เกิดคราบสกปรกจับเกาะที่ผิวแล้ว มันยังเป็นตัวยึดจับฝุ่นผงขนาดเล็กให้เกาะติดผิวสีรถให้แน่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้น ในควันไอเสียยังประกอบด้วยสารที่ฤทธิ์กัดกร่อน เช่น อัลดิไฮด์ , ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ , ไนตริกออกไซค์ เป็นต้น ดังนั้นมันจึงสามารถทำร้ายสีรถได้มากกว่าแค่เกาะจับทำให้สีรถดูหมองไม่สดใส

 

สิ่งเหล่านี้สามารถก่อปัญหาให้กับสีรถของเราได้ ต้องหาทางแก้ไข ขจัดมันออกไป เช่น หากว่ารถโดยสารที่เป็นของเหลวต่างๆ ในรถที่เราได้กล่าวไปแล้วว่ามันมีฤทธิ์ในการกัดกร่อนผิวสี อย่างแรกที่ควรทำก็คือ การล้างผิวสีรถในบริเวณที่เปื้อนด้วยน้ำสบู่ เพื่อปรับสภาพความเป็นกรดให้ลดลงด้วยการใช้สารละลายที่เป็นด่าง อย่างน้ำสบู่เข้าไปช่วย จากนั้นให้ล้างทำความสะอาดให้หมดจด เช็ดให้แห้ง จากนั้นเคลือบผิวด้วยสารเคลือบก็จะช่วยดูแลผิวรถได้ในระดับหนึ่ง (ตามสภาพของการกัดกร่อนทำลายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะรถที่ไม่ได้ เคลือบแก้ว )

 

 

เคลือบแก้ว ช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ไหม

 

การทำ เคลือบแก้ว นั้น ก็คือ การสร้างชั้นฟิล์มให้เกิดขึ้นที่ผิวสีของรถอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งมันมีคุณสมบัติด้านความแข็ง ความลื่น และความหนา อันเกิดจาก น้ำยาเคลือบแก้ว ที่ใช้เคลือบลงไป (คุณสมบัติดีมากน้อยอยู่ที่ตัว น้ำยาเคลือบแก้ว ที่เลือกใช้ และความสามารถในการลง เคลือบแก้ว ของผู้ให้บริการ) ดังนั้น ชั้นฟิล์มนี้จะทำหน้าที่เป็นด่านหน้าเผชิญกับสิ่งต่างๆ ที่จะทำลายผิวสีรถเอาไว้ แต่ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถต้านทานทุกอย่างได้ไปเสียหมด ขึ้นอยู่กับระดับความแข็งความหนา และความลื่นที่เกิดจากปฏิกิริยาของ น้ำยาเคลือบแก้ว ที่เราเคลือบเอาไว้ แต่มันย่อมดีกว่ารถที่ไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาแน่นอน อย่างน้อยสามารถชะลอเวลาและลดความเสียหายเอาไว้ได้ ดังนั้นเมื่อพบต้องรีบทำความสะอาด ความลื่นของชั้นฟิล์มจะช่วยให้การทำความสะอาดง่ายยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นจึงเชื่อมั่นได้ว่ามันมีประสิทธิภาพในการปกป้องปัญหาจากสิ่งต่างๆ ที่เรากล่าวถึงในขั้นต้นได้เป็นอย่างดี

 

ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบแก้วของ Armor เพิ่มเติม