ซากแมลงที่ติดที่ผิวรถ เป็นเรื่องที่พบเจอกันได้เป็นปกติ โดยเฉพาะรถที่ต้องเอาออกมาใช้งานในช่วงเย็นๆ และตอนค่ำ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีแมลงออกมาบินว่อนหาแสงไฟตามท้องถนน รอยเปื้อนซากแมลงเป็นเรื่องธรรมดาที่พบได้บ่อยจนหลายๆ ท่านคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่ใช่รอยเปื้อนเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่น่าวิตกอย่างที่คิด เพราะมันสามารถทำลายสีรถได้ ซึ่งการทำ เคลือบแก้ว เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันที่ดีที่สุด แต่ก่อนจะตัดสินใจทำการลง น้ำยาเคลือบแก้ว เพื่อป้องกันปัญหานี้ เราควรลองมาดูกันก่อนว่ามันร้ายแรงแค่ไหน และการ เคลือบแก้ว ช่วยในการป้องกันมันได้จริงหรือไม่…
ซากแมลงติดรถ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ จริงหรือ
นี่อาจเป็นคำถามที่หลายๆ ท่านเกิดความสงสัย เพราะว่าซากของแมลงตัวเล็กๆ ที่บินมาปะทะเข้ากับรถและติดอยู่นั้น มันดูเป็นอะไรที่ดูแล้วไม่น่าจะหนักหนาแต่อย่างใด ขนาดของมันก็เล็ก เช็ดออกก็ไม่น่าจะยากหากว่ามันติดอยู่ใหม่ๆ และต่อให้แห้งคารถ ก็ไม่น่าจะเป็นอะไร บางทีโดนลมแรงๆ ก็น่าจะหลุดออกไปแล้ว อีกทั้งซากแมลงติดรถก็ไม่น่าจะมีฤทธิ์กัดกร่อนทำลายสีรถได้แต่อย่างใด… ซึ่งหากว่าท่านใดเชื่อเช่นนั้นก็ขอเรียนให้ทราบว่า นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิด
เหตุผลก็เพราะซากแมลงนั้น เมื่อมันเกาะติดผิวจะเกิดการเน่าเสียเสื่อมสลายไปตามเวลา ซึ่งในกระบวนการการเน่าและย่อยสลายนั้นกินเวลานานพอสมควรกว่ามันจะสลายไปจนหมด ในระหว่างที่มันเกิดการเน่าเสียนั้น มันจะเกิดสภาพความเป็นกรดขึ้นจากการเน่าเสีย มีสภาพเหมือนกันแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารละลายอย่างหนึ่ง หากว่ามันติดคาอยู่ที่สีรถของเราเป็นจำนวนมาก ก็แน่นอนว่าของเหลวที่เกิดจากการเน่าเสียในซากของมันจะทำลายชั้นสีของรถเราได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในตัวของแมลงมีของเหลว ที่มีความเหนียว มันสามารถสร้างรอยคราบสกปรกที่ทำความสะอาดยากให้เกิดขึ้นกับสีรถ ยิ่งปล่อยให้มันแห้งเจอลมเจอแดดและความชื้นก็ยิ่งเกาะแน่น ที่สำคัญมันไม่ได้ติดแค่ตัวสองตัว ซากแมลงมันจะมากันเป็นฝูง และเกาะหนาสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ การเน่าเสียที่ทำลายผิวสีแท้ของรถเราก็มากตาม ถ้าปล่อยไว้นานเท่าไหร่ทำความสะอาดก็ยากและทิ้งรอยมากเท่านั้น และมันยังเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นผงสิ่งสกปรกให้เกาะหนาฝังแน่นที่ผิวรถของเราอย่างน่ากลัว และดูน่าเกลียดอีกด้วย
การทำความสะอาดซากแมลงติดรถ ในกรณีที่ยังไม่ได้ทำการ เคลือบแก้ว
ในกรณีที่ยังไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว ขอแนะนำให้พยายามทำความสะอาดให้เร็วที่สุด อย่ารอจนมันแห้งคาหรือเน่าเสียสะสมอยู่ที่ผิวรถ ให้ใช้น้ำสะอาดฉีดแรงๆ ล้างมันออกและเช็ดให้แห้งอย่างรวดเร็ว จากนั้นควรมีการเคลือบสีรถ ด้วยแวกซ์เพิ่ม ช่วยขจัดรอยคราบจากของเหลวในซากของแมลงออกไปให้หมดจดมากยิ่งขึ้น แต่หากว่าติดคาอยู่นาน ก็คงต้องพึ่งสารทำความสะอาดคราบแมลงเป็นการเฉพาะ ฉีดพ่นน้ำยาลงไปแล้วรอสักครู่ ทำความสะอาดและล้างออกให้หมด เช็ดให้แห้ง ในการเช็ดออกก็ควรระวังให้มาก อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า มันเป็นที่สะสมของฝุ่นผงได้เป็นอย่างดี และหากมีฝุ่นผงที่มีความแข็งในการเช็ดหรือขัดเอาคราบแมลงออก ก็อาจจะสร้างรอยขีดข่วนขึ้นที่ผิวรถของเราได้
การเคลือบแก้วช่วยในเรื่องซากแมลงติดรถได้อย่างไรบ้าง
การทำ เคลือบแก้ว เป็นการสร้างชั้นฟิล์มใสที่มีความแข็ง หนา และมีความลื่นสูง ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาและคุณสมบัติของ น้ำยาเคลือบแก้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นมันจึงช่วยป้องกันสีรถของเราจากซากแมลงได้แน่นอน เพราะมันจะเริ่มตั้งแต่การที่ซากแมลงไม่สามารถเกาะติดแน่นกับพื้นผิวแท้ของสีรถได้ จะติดอยู่ที่ชั้นบนของฟิล์มใสแทน นอกจากนี้มันยังมีความลื่น ซากแมลงจึงไม่สามารถติดแน่นอยู่ได้… ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงมั่นใจได้ว่าการ เคลือบแก้ว ป้องกันซากแมลงติดรถได้อย่างแน่นอนในระดับน่าพอใจ เพราะมันทั้งไม่สามารถเกาะติดแน่น และไม่สามารถลงไปสร้างความเสียหายให้ชั้นผิวสีแท้จากความหนาและความแข็งของชั้นฟิล์มของ น้ำยาเคลือบแก้ว อีกทั้งยังสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ล้างด้วยน้ำเปล่า แล้วเช็ดก็สะอาดเหมือนเดิม การ เคลือบแก้ว จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่ทำให้เราไม่ต้องระวังและวุ่นวายในการจัดการมากกับซากแมลงติดรถ รวมถึงปัญหาอื่นๆ ในการใช้งานรถ