• ผลิตภัณฑ์คุณภาพ จากประเทศเยอรมนี

  • สนใจผลิตภัณฑ์เคลือบแก้วและธุรกิจคาร์แคร์ ติดต่อ

Armor Diamond

รถสภาพสีใหม่ๆ ก็ใช่ว่าจะทำเคลือบแก้วได้ทันที ตอนที่ 1You are here: Home » Blog » ข้อมูลความรู้ บทความ » รถสภาพสีใหม่ๆ ก็ใช่ว่าจะทำเคลือบแก้วได้ทันที ตอนที่ 1

การทำ เคลือบแก้ว เป็นที่ทราบกันดีว่ามันสามารถยืดอายุให้กับความสวยงามของผิวสีรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงมีหลายๆ ท่านให้ความสนใจเอารถมารับบริการทำ เคลือบแก้ว กันตั้งแต่เป็นรถใหม่ป้ายแดง หรือ รถที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่เอาไปจัดการทำสีมาใหม่ พึ่งออกจากอู่ทำสีรถสดๆ ร้อนๆ ก็รีบเอามารับการลง น้ำยาเคลือบแก้ว กันเลย โดยจุดมุ่งหมายเพื่อรักษาสภาพรถให้คงความสวยความใหม่เอาไว้ได้นานๆ และเสริมความมันเงาเป็นประกายให้กับรถ แต่เชื่อหรือไม่ว่า ต่อให้เป็นรถใหม่ หรือทำสีมาสดๆ ร้อนๆ ก็ใช่ว่ามาถึงแล้วจะสามารถเริ่มทำ เคลือบแก้ว ได้ในทันที…

 

 

รถใหม่ก็ใช่ว่าจะทำเคลือบแก้วได้ทันที ตอนที่ 1 “เคลือบแก้วรถทำสีใหม่”

 

 

ซึ่งในเรื่องเกี่ยวกับรถสภาพสีใหม่ๆ นี้เราจะแยกเป็น 2 ประเด็น เพื่อให้เห็นชัดๆ  เพราะคำว่า รถสีใหม่ๆ ไม่ได้หมายถึงแค่รถป้ายแดงรถซื้อใหม่แค่อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงรถที่ผ่านการทำสีมาใหม่ด้วย เพราะมีหลายๆ ท่าน ที่มีความสนใจอยากเอารถสภาพสีใหม่ๆ รีบเอามาทำ เคลือบแก้ว เพื่อปกป้องรถเอาไว้ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่มีความเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม หลายท่านเข้าใจว่า การทำ เคลือบแก้วรถ ที่มีสภาพสีดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการ เคลือบแก้วรถป้ายแดง หรือ รถที่พึ่งออกจากอู่สีมา น่าจะเป็นอะไรที่เร็วมาก เพราะสภาพสีพร้อม แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป ซึ่งในตอนที่ 1 นี้ เราจะมาคุยกันถึงเรื่องของ รถที่ผ่านการทำสีมาใหม่กันก่อน เพราะนี้คือรถที่พึ่งไปผ่านการปรับโฉมมา พื้นผิวเดิมที่เคยมีปัญหาสีด่าง สีลอกร่อน มีรอยไม่สวย ถูกจัดการพ่นสีมาใหม่เคลือบทับทั้งหมด สภาพรถแบบนี้บางท่านอาจจะคิดว่า มันก็น่าจะมีสภาพสีไม่ได้ต่างอะไรจากรถที่ออกจากโรงงานเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะการไปรับบริการจากอู่ทำสีที่มีเครื่องจักรเครื่องใช้แบบมาตรฐานโรงงานพ่นสี ตัวสภาพสีก็น่าจะพร้อมเลยในการ เคลือบแก้ว แต่… เมื่อเอามาถึงศูนย์บริการ กลับถูกจับไปตรวจสภาพ และลงมือขัดแต่งเตรียมพื้นผิวใหม่… เรื่องนี้ทำให้หลายท่านเกิดความสงสัย และมีข้อกังขาว่าทำไมต้องทำเช่นนั้น… เป็นการเพิ่มขั้นตอนโดยใช่เหตุหรือไม่ หรือ เป็นขั้นตอนมาตรฐานที่ต้องทำไปอย่างนั้นๆ หรือ… มันเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำจริงๆ และหากว่ามันจำเป็นจริงๆ เป็นเพราะเหตุใด เพราะสภาพของสีรถที่พึ่งทำมาใหม่ๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาให้ถึงขั้นต้องลงไม้ลงมือขัดแต่ง…

 

 

ทำไมรถทำสีมาใหม่ต้องมีการปรับสภาพอีกก่อนทำเคลือบแก้ว

 

เหตุผลที่มีการปรับสภาพ หรือ เคลียร์พื้นผิว ก่อนทำ เคลือบแก้ว เกิดจากการพิจารณาสภาพผิวของผู้เชี่ยวชาญในการทำ เคลือบแก้วรถ ซึ่งเรื่องนี้เป็นขั้นตอนแรกและมีความสำคัญมาก คือ ต้องตรวจสอบสภาพสีก่อนว่าเป็นอย่างไร ในกรณีที่เป็นรถที่ผ่านการทำสีมาใหม่ก็ใช่ว่าจะมีพื้นผิวที่สมบูรณ์เหมือนที่เราเห็น เพราะที่ตัวสีของรถอาจจะมีปัญหาที่เกิดจากการทำสีใหม่ติดมา อันได้แก่

 

  1. ผิวเป็นเปลือกส้ม ซึ่งเรื่องนี้เกิดจากปัญหาในการทำสี เช่น เนื้อสีที่พ่นไปลงจับเป็นก้อนไม่แตกตัวอย่างสมบูรณ์ ใช้ทินเนอร์ที่แห้งเร็วเกินไป เวลาพ่นสีจ่อใกล้ชิ้นงานมากเกินไป หรือ การพ่นสีหนา การพ่นสีทับในขณะที่ชั้นล่างยังไม่แห้ง เรื่องเหล่านี้ทำให้ผิวสีมีลักษณะขรุขระเหมือนผิวส้ม
  2. ผิวมีละอองแห้ง มีลักษณะผิวสีหยาบเวลาลูบรู้สึกสากที่มือ เกิดจากสีแตกตัวไม่ดี เวลาพ่นห่างจากผิวรถมากเกินไป หรือการทำสีในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม มีอุณหภูมิสูง มีลมแรง ทำเนื้อสีแห้งเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
  3. ผิวย่นเป็นหนังไก่ มีลักษณะผิวสีที่มีรอยย่นเล็กๆ บนพื้นผิว เกิดจากการพ่นสีหนาเกินไป ทำให้สีชั้นบนแห้งแต่ข้างล่างยังไม่แห้ง ตอนแรกก็จะดูปกติ แต่พอสีชั้นล่างเริ่มแห้งก็จะมีสภาพย่นคล้ายหนังไก่

 

เรื่องเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้กับรถที่พึ่งไปทำสีมา ทำให้ต้องมีการขัดเตรียมผิวสีรถใหม่อีกครั้ง เพื่อให้มีความพร้อมก่อนที่จะลง น้ำยาเคลือบแก้ว ซึ่งการ เคลือบแก้ว จะได้ผลสมบูรณ์ดี จะต้องมีสภาพพื้นผิวที่สมบูรณ์ และในการขัดเคลียร์ผิวก่อนนี้ นอกจากจะเป็นการขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นจากการทำสีให้หมดไปแล้ว ยังเป็นการเพิ่มการยึดเกาะระหว่าง น้ำยาเคลือบแก้ว กับผิวสีรถให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วย

 

ดังนั้น แม้จะเป็นรถที่พึ่งผ่านการทำสีมาใหม่ เมื่อเอามาทำ เคลือบแก้ว ก็จึงยังจำเป็นที่จะต้องมีการขัดและเคลียร์พื้นผิวก่อนเสมอ เพื่อให้ได้งานที่ออกมามีความสมบูรณ์สามารถปกป้องและเพิ่มความงามให้รถได้อย่างสมบูรณ์

 

ดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบแก้วของ Armor เพิ่มเติม