โคลนติดรถไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้ายังไม่ได้เคลือบแก้ว
- ธ.ค. 12, 2017
- 0
- ข้อมูลความรู้ บทความ
เวลาที่เราใช้งานรถ ปัญหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ เรื่องของรอยคราบสกปรกที่จะเกิดขึ้นกับรถของเรา ตั้งแต่ยางล้อไปจนถึงหลังคา ตั้งแต่หน้ากระจังรถไปจนถึงปลายท่อส่วนท้าย ไม่ว่าส่วนไหนก็สามารถมีรอยเลอะเปรอะเปื้อนเกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น ซึ่งในบรรดารอยเปื้อน คราบโคลน ก็เป็นอีกรอยเปื้อนที่เกิดขึ้นได้เป็นประจำ และมันไม่ได้มีแค่ในช่วงฤดูฝนเท่านั้น ในฤดูอื่นๆ ก็เกิดขึ้นได้ เมื่อใดตามที่มีน้ำลงไปบนถนนและมีฝุ่นดินอยู่บนถนนนั้น ก็สามารถผสมรวมตัวกันเป็นโคลนได้เสมอ ดังนั้นมันจึงเป็นคราบเปื้อนที่ค่อนข้างธรรมดา แต่อย่าได้ประมาท อย่าคิดว่ามันแค่รอยเปื้อนโคลนธรรมดา ว่างแล้วค่อยล้างๆ เช็ดๆ เมื่อไหร่ก็ได้… เพราะมันเป็นรอยเปื้อนที่แฝงปัญหามากับความธรรมดาสามัญอย่างน่ากังวลเลยทีเดียว โดยเฉพาะในรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว มาก่อน ยิ่งต้องระวังให้มาก
ปัญหาที่เกิดจากโคลนเกาะติดในรถที่ยังไม่ได้เคลือบแก้ว
เราลองมาดูปัญหาที่เกิดขึ้นจากการที่รถของเรามีโคลนจับเกาะ ว่ามันมีผลเสียหายหรือส่งผลก่อให้เกิดปัญหาอย่างไรบ้าง ซึ่งในกรณีนี้จะขอกล่าวถึงในกรณีรถที่ยังไม่ได้ผ่านการทำ เคลือบแก้ว เสียก่อน ซึ่งก็คือ…
- เกิดรอยคราบสกปรกที่ไม่น่ามอง แน่นอนว่าโคลนที่เลอะขึ้นมาเกาะติดกับสีรถ ตัวถังรถ หรือส่วนต่างๆ ทำให้รถดูสกปรกไม่น่ามอง ยิ่งเลอะมากก็ยิ่งน่าเกลียด ถ้าหากว่าเลอะไปถึงกระจกรถก็จะส่งผลต่อทัศนะวิสัยในการขับขี่ ซึ่งก็เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุได้เลยทีเดียว
- เกิดรอยคราบฝังแน่นที่เช็ดล้างไม่ออก กรณีนี้เกิดขึ้นจากการที่เราปล่อยให้คราบโคลนติดอยู่ที่รถเป็นเวลานาน โดยไม่รีบทำความสะอาดออกไป เพราะบางท่านคิดว่าแค่คราบโคลนเอาน้ำล้างก็น่าจะออก แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะในส่วนประกอบของโคลนมีแร่ธาตุหลายชนิด บางชนิดเมื่อทิ้งไว้สักพักทำความสะอาดด้วยน้ำหรือการเช็ดล้างธรรมดาไม่ได้ เช่น แคลเซียมคาร์บอเนต (Calcium carbonate : CaCO3) หรือ “หินปูน” ซึ่งมันไม่ละลายน้ำ และยังมีความสามารถในการจับเกาะได้แน่นกับผิวของวัสดุ หากทิ้งไว้นานก็ยิ่งจับตัวหนาและทำความสะอาดได้ยากมากขึ้น
- มีสนิมเหล็กเกาะที่ผิวสีรถล้างทำความสะอาดไม่ได้ ดินหรือโคลนที่มีสีแดงจัด อาจจะเป็นไปได้ว่ามันมีส่วนผสมของแร่เหล็กอยู่ ยิ่งถ้าเป็นรถสีขาว หรือสีอ่อนๆ อาจจะเกิดรอยคราบสีแดงจับเกาะล้างไม่ออก จนอาจจะต้องพึ่งการขัดสีกันเลยก็เป็นไปได้ หากว่ายังไม่ได้ทำ เคลือบแก้ว เอาไว้
- ทำเกิดรอยขูดขีดที่สีรถเมื่อทำการล้าง เรื่องนี้เกิดจาก โคลนนั้นนอกจากตัวมันจะสามารถยึดติดกับผิวสีของรถได้ดีแล้ว มันก็ยังช่วยให้สิ่งสกปรกอื่นๆ มาติดรถได้เพิ่มขึ้นอีก กลายเป็นตัวประสานให้พวกฝุ่นผงกรวดทรายเกาะติดสีรถของเรา ซึ่งพวกเศษกรวดทรายเหล่านี้มีความแข็ง หากว่าเวลาที่เราล้างรถไม่ได้จัดการล้างเอาสิ่งสกปรกเหล่านี้ออกให้หมดจดจริงๆ เวลาที่เราเอาผ้าลูบไปมาก็เท่ากับลากเอากรวดทรายให้กรีดไปที่ผิวรถสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับผิวสี ทำให้เกิดความเสียหาย อย่างน้อยๆ ก็เกิดรอยขนแมว ถ้าหนักก็เกิดรอยเสียหายที่สีลึก ขัดลบไม่ได้ต้องรอทำสีใหม่อย่างเดียวเท่านั้น…
- ทำให้รถเกิดสนิม เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จากการที่คราบโคลนไปเกาะจับในบางบริเวณนานๆ ซึ่งในตัวมันเก็บสะสมความชื้น ทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างโลหะและออกซิเจนทำให้เกิดสนิมเหล็กขึ้น ทิ้งไว้นานๆ ก็จะเกิดการผุกร่อนเสียหาย
นี่เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากโคลนที่ติดสีรถ หากไม่ได้ทำการ เคลือบแก้ว เอาไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวและทำให้เกิดความเสียหายตั้งแต่ระดับไม่สบายตาไปจนถึงเกิดการผุพังของรถได้เลยทีเดียว
การทำเคลือบแก้วช่วยแก้ปัญหาโคลนติดรถได้อย่างไร
สำหรับการทำ เคลือบแก้ว นั้น มีส่วนช่วยเป็นอย่างมากในกรณีของโคลน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่การที่ น้ำยาเคลือบแก้ว มีประสิทธิภาพต่อการการยึดเกาะ ทำให้โอกาสที่โคลนจะติดแน่นเกิดขึ้นได้ยาก รวมถึงชั้นฟิล์มที่เกิดจากการทำ เคลือบแก้ว ก็จะป้องกันชั้นสีแท้ของรถเอาไว้ ดังนั้นโคลนจะติดได้ก็แค่ผิวนอกของ เคลือบแก้ว เท่านั้น และเป็นที่ทราบกันว่ามันมีความลื่น และยังมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดตัวเอง การทำความสะอาดก็ง่าย เพราะคราบไม่สามารถยึดเกาะฝังแน่น ส่วนเรื่องที่จะเกิดรอยคราบหินปูน หรือ สนิมที่ล้างออกยากก็จะไม่มี เนื่องจากโคลนลงไปไม่ถึงชั้นสีแท้
ดังนั้นการทำ เคลือบแก้ว สามารถช่วยป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นจากโคลนได้เป็นอย่างดี แต่หากว่ายังไม่ได้ผ่านการลง น้ำยาเคลือบแก้ว ที่รถเอาไว้ หากว่ามีรอยเปื้อนที่เกิดจากโคลนก็ขอให้รีบจัดการทำความสะอาดเสียตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าทิ้งเอาไว้ให้เป็นปัญหาลุกลามจนเกิดความเสียหายกับรถของเรา…